การเบิร์นหูฟังและลำโพง เพื่อการเล่นคาสิโนออนไลน์ให้สนุกขึ้น

หูฟังและลำโพงนั้นเป็นอุปกรณ์หรือเครื่องขยายเสียงชนิดหนึ่งมีหลายระดับหลายราคาวางขายอยู่ในตลาดปัจจุบัน โดยจะหาซื้อได้ตั้งแต่หลักร้อยตามร้านสะดวกซื้อทั่วไป ไปจนถึงหูฟังลำโพงระดับไฮเอนด์ของแบรนด์ระดับโลกที่ตัวนึงก็เหยียบหลักแสนเลยทีเดียว ซึ่งอันนี้ก็แล้วแต่ความต้องการและลักษณะการใช้งานของแต่ละกลุ่มเลย โดยวงการของคนเสพดนตรีหรือชื่นชอบการฟังเพลงเป็นชีวิตจิตใจนั้นก็จะเริ่มเล่นหูฟังและลำโพงที่ค่อนข้างให้ความสำคัญกับอุปกรณ์ทั้งสองอย่างนี้อยู่พอสมควร โดยรู้หรือไม่ว่า ในวงการคนเล่นหูฟังและลำโพงมีความเชื่อเกี่ยวกับการใช้งานอยู่วิธีหนึ่งซึ่งว่ากันว่าสามารถเพิ่มประสิทธิภาพของอุปกรณ์ให้ดีขึ้นได้ นั่นคือวิธีที่เรียนกว่า การเบิร์นหูฟังและลำโพงนั่นเอง โดยในบทความนี้ gclub จะมาไขข้อสงสัยเกี่ยวกับการเบิร์นอุปกรณ์ทั้งสองนี้ว่าคืออะไร ถ้าอยากรู้แล้วล่ะก็ไปดูกัน

การเบิร์น (Burn-In) อุปกรณ์หูฟังและลำโพงคืออะไร

สำหรับผู้ที่เริ่มเล่นในวงการนี้น่าจะเคยได้ยินว่า ถ้าซื้อหูฟังหรือลำโพงมาใหม่แล้วต้องทำการเบิร์นหรือ Burn-In ก่อนนำมาใช้งานจริง เพื่อที่จะได้รีดเร้นประสิทธิภาพเสียงออกมาก่อนใช้นั่นเอง โดยการเบิร์นนั้นถ้าให้พูดง่ายๆก็เหมือนกับการอุ่นเครื่องให้หูฟังและลำโพงตัวโปรดของเรานั่นเอง ถ้าคุณลองสังเกตุเมื่อเข้าไปที่Store ของร้านขายเครื่องเสียงหรือ Gadgetพวกนี้แล้วเข้าไปขอทดลองหูฟังของร้าน เมื่อฟังแล้วอาจรู้สึกว่าหูฟังตัวนี้มีเสียงอิ่มและแน่น แต่พอคุณตัดสินใจซื้อหูฟังรุ่นนี้กลับไปฟังที่บ้านกลับพบว่าหูฟังตัวใหม่ที่คุณซื้อมาทำไมเสียงถึงดูแห้งกว่าตัวโชว์ที่ร้าน ก็อย่าเพิ่งตกใจ เพราะการเบิร์นหูฟังนั้นมีส่วนต่อการเปลี่ยนแปลงของเสียงอยู่บางส่วนทีเดียว โดยการเบิร์นที่ว่านี้ก็คือการเปิดเพลงไปเรื่อยๆอย่างต่อในช่วงเวลาหนึ่งและอยู่ในความดังที่เหมาะสม เพราะหูฟังหรือลำโพงที่เพิ่งผลิตออกมาจากโรงงานใหม่ๆนั้น ตัวดอกลำโพงหรือแผ่นไดอะเฟรมอาจจะยังไม่ขยายตัวหรือยังไม่เข้าที่นั่นเอง อย่างไรก็ตามถึงแม้การเบิร์นหูฟังและโพงใหม่นั้นจะช่วยให้เสียงดีขึ้นอย่างที่ควรจะเป็น ซึ่งจะดีขึ้นตามมาตรฐานและสเปคของอุปกรณ์ที่รุ่นนั้นจะทำได้ ถ้าจะให้เบิร์นหูฟังหลักร้อยแต่ต้องการคุณภาพเสียงเทียบเท่าหูฟังและลำโพงหลักพันหลักหมื่นก็คงเป็นไปไม่ได้นั่นเอง

การเบิร์นหูฟังและลำโพง ทำได้อย่างไร

อย่างที่บอกไปว่าการเบิร์นนั้นคือการเปิดเพลงต่อเนื่องในช่วงเวลาหนึ่งและอยู่ในระดับเสียงที่เหมาะสม ซึ่งก็คือระดับเดียวกับที่เราเปิดฟังนี่แหละ อาจจะดังกว่าหน่อยได้ แต่ไม่ควรดังเกินไปเพราะตัวฮาร์ดแวร์อาจเสียหายได้ ส่วนสำหรับระยะเวลาในการเบิร์นนั้นจะแตกต่างกันขึ้นอยู่กับชนิดของอุปกรณ์ แต่โดยเฉลี่ยแล้วจะอยู่ที่ประมาณ 100-200 ชั่วโมง แต่ถ้าเป็นนลำโพงดอกใหญ่ก็อาจจะต้องใช้เวลานานขึ้นหลายเท่า นอกจากนี้ผู้ที่เบิร์นอย่างจริงใจนั้นอาจจะเลือกใช้ไฟล์เสียงและชนิดของเพลงด้วย โดยจะเลือกเปิดไฟล์เพลงคุณภาพสูงที่มีคุณภาพชัดระดับ Lossless ขึ้นไป เพื่อให้อุปกรณ์ที่ผลิตย่านเสียงออกครบ ทั้ง Treble, Mid, และ Bass นั่นเอง โดยการอาจใช้เลือกเปิดแนวเพลง classical หรือ Jazz เพราะเป็นแนวที่มีเครื่องดนตรีหลากหลายและให้ย่านเสียงที่ครบ หรือจะเปิดแนวเพลงที่คุณชอบฟังเลยก็ได้ทั้งนั้น ไม่มีผิดไม่ถูก ซึ่งก็มีคำถามว่าซื้อหูฟังและลำโพงมาใหม่แล้วไม่เบิร์นได้ไหม ขอตอบเลยว่าไม่มีปัญหาเพราะการเบิร์นก็คือการเปิดเพลงให้อุปกรณ์ได้วอร์มอัพเท่านั้นเอง ถ้าคุณไม่ซีเรียส การเปิดฟังเองไปเรื่อยๆก็เหมือนกับเบิร์นนี่แหละ แต่ถ้าอยากซื้อหูฟังมาแล้วต้องการได้คุณภาพเสียงได้ตามสเปคอย่างที่ควรจะเป็น การลอง Burn-In นั้นก็ไม่เสียหาย

เล่นคาสิโนออนไลน์กับคุณภาพเสียงระดับสูงหลังการเบิร์น

ผู้เล่นที่เข้ามาเล่นเกมคาสิโนออนไลน์อย่าง บาคาร่า เสือมังกร รูเล็ต ฯลฯ กับทาง gclub นั้นจะพบว่าตัวเกมของเรานั้นมีการพัฒนากราฟฟิกให้ดูสวยงามสมจริง อีกทั้งเรายังให้ความสำคัญคุณภาพเสียงอีกด้วยซึ่งคุณจะได้อรรถรสในการเล่นจากระบบเสียงที่คมชัด โดยถ้าคุณมีอุปกรณ์หูฟังหรือลำโพงดีๆสักตัวที่เพิ่งซื้อใหม่และลองทำการเบิร์นหรือ Burm-In เพื่อให้อุปกรณ์เข้าที่และดึงประสิทธิภาพออกมาได้อย่างเต็มที่แล้วล่ะก็ คุณจะได้รับประสบการณ์ในการเล่นเกมอย่างแน่นอน สามารถนำไปลองกันดูได้เลย